• E-Book



    หนังสืออิเล็คทรอนิกส์ (E-Book : Electronic Book)    

    ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคนไทยมากขึ้น สถาบันการศึกษาในไทยทุกแห่งให้ความสนใจในเรื่องการใช้เทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ทางด้าน การศึกษา เพราะเป็นสิ่งจำเป็น การเรียนการสอนของไทยในปัจจุบันจึงเปลี่ยนสภาพไปค่อนข้างมาก นักเรียนนักศึกษาครูอาจารย์ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ประกอบการเรียนการสอนด้วยกันทั้งสิ้นเทคโนโลยีหนึ่งที่ถูกนามาใช้ในการเรียนการสอนของไทยในยุคปัจจุบันและมีแนวโน้มที่จะนาไปช้ในอนาคตอย่างแพร่หลายด้วย นั่นคือ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e -book)
               ปิลันธนา สงวนบุญญพงษ์  (2542: 20) ได้ให้ความหมายของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ไว้ว่า หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง เป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถนำเสนอข้อมูลได้ทั้ง ข้อความ  ภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวและเสียงผ่านคอมพิวเตอร์โดยการเชื่อมโยงข้อมูลที่สัมพันธ์ของเนื้อหาที่อยู่ในแฟ้มเดียวกันหรืออยู่ในแฟ้มเข้าด้วยกันโดยไม่จำกัดว่าจะเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบใด หากเป็นการเชื่อมโยงข้อความที่เป็น ตัวอักษรหรือตัวเลข เรียกว่า ไฮเปอร์เท็กซ์ (hypertext) และถ้าหากข้อมูลนั้นรวมถึงเสียงและภาพเคลื่อนไหวด้วยก็เรียกว่า สื่อประสมไฮเปอร์มีเดีย (hypermedia)
               จากความหมายของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สามารถสรุปได้ว่า หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีการเปลี่ยนจากรูปแบบดั้งเดิมมาอยู่ในรูปดิจิตอลเนื้อหาสาระมีหลายมิติสามารถเชื่อมโยงข้อมูลได้ ทั้งจากข้อมูลภายในและจากเครือข่ายมีการจัดเก็บและเผยแพร่โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
              E-Book ที่จะอ่านได้และคาดว่าจะเป็นที่นิยมบนอุปกรณ์เหล่านี้ เท่าที่เห็นอาจจะมีราวๆ สามกลุ่ม ดังนี้


    ปก " The Innovation secret of Steve Jobs"
    ฉบับ E-Book บน iPad ยังเป็นตัวหนังสือล้วนๆ เหมือนฉบับจริง
             
    กลุ่มแรก คือพวกที่มีตัวหนังสือและภาพนิ่งล้วนๆ อย่างที่ Amazon ขายอยู่บน Kindle store, Apple ขายอยู่ใน iBookstore ไม่ว่าจะเป็นภาพสีหรือขาวดำก็ตาม กลุ่มนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นการจำลองแบบจากหนังสือเล่มที่เป็นฉบับพิมพ์จริงมาโดยตรงหน้าต่อหน้า ไม่ว่าจะเป็นหนังสือนิยาย วรรณกรรม สารคดี วิชาการ บริหารธุรกิจ ฯลฯ
              โดยทั่วไปการแปลงหนังสือกลุ่มนี้เป็น E-Book จะมีการเพิ่มความสามารถปรับขนาดฟอนต์ในการแสดงผลให้ใหญ่- เล็กตามหน้าจอหรืออุปกรณ์ที่ใช้ได้ แต่บางทีถ้าเป็นหนังสือที่มีภาพประกอบที่วางแบบสวยงาม ชิดซ้าย ชิดขวา หรือวางข้อความล้อมรูป การปรับฟอนต์ก็พาลทำให้หน้าที่จัดเลย์เอาท์ไว้ดีๆ รวนไปเสียจนอ่านไม่รู้เรื่องก็มี อันนี้นับเป็นข้อจำกัดอันหนึ่งในการแปลงไฟล์ที่จัดหน้าแบบหนังสือให้กลายเป็น E-Book ซึ่งไม่ใช่ว่าจะแก้ไขไม่ได้ แต่ต้องจัดการกันอย่างพิถีพิถันหน่อย

              กลุ่มที่สอง คือพวกที่เพิ่มมัลติมีเดีย วิดีโอ เสียงประกอบ ฯลฯ เข้าไป เช่นบางภาพแทนที่จะดูภาพนิ่งก็กลายเป็นวิดีโอแทน มีเสียงบรรยายประกอบบางช่วง มีดนตรีประกอบเพื่อสร้างบรรยากาศในการอ่าน ซึ่งเป็นไปได้ทั้งนิยาย (ที่อาจจะต้องสร้างบางฉากเป็นหนังสั้นแบบมิวสิควิดีโอหรือ mv) หรือสารคดีที่ผสมกันระหว่างคำบรรยายกับภาพและเสียง

    หนังสือนำเที่ยวเชียงใหม่ (ซ้าย) VS แอพพลิเคชั่นนำเที่ยวเชียงใหม่  บน iPhone (ขวา) พัฒนาโดยโปรวิชั่น หนังสือดูเพิ่มที่ www.provision.co.th
             
    กลุ่มที่สาม อาจจะเรียกว่ามีพัฒนาการขึ้นไปอีกขั้น จนไม่แน่ใจว่ายังควรจะเรียกว่า E-Book, application หรือ game กันแน่ คือกลุ่มที่เพิ่มเอฟเฟ็คต์และความสามารถในการโต้ตอบกับผู้อ่านเข้าไปด้วย เช่นหนังสือนิยายผจญภัยประเภทที่ให้ผู้อ่านเลือกฉากที่จะเล่น (อ่าน) เองได้ หนังสือท่องเที่ยวที่มีแผนที่และข้อมูลสถานที่ต่างๆ สัมพันธ์กับตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้ เป็นต้น
              ดังนั้น ในการจัดการเรียนรู้นั้นครูผู้สอนต้องเป็นครูยุคใหม่ ต้องเลือกสรรและใช้รูปแบบและวิธีการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย หมั่นศึกษาเรียนรู้สื่อใหม่ ๆ เพื่อนำมาใช้กระตุ้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาหาความรู้อย่างกว้างขวางและทันสมัย รู้จักคิดอย่างมีเหตุผล สามารถแก้ไขปัญหาและมีทักษะในเชิงปฏิบัติ มีการสร้างแรงจูงใจ สร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้น และกระตุ้นให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งหลายคนทราบดีว่าธรรมชาติของเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กปฐมวัยหรือประถมศึกษานั้นชอบ "เล่น" การจัดการเรียนรู้จึงต้องสอดคล้องกับความต้องการและวัยของผู้เรียน เมื่อเด็กชอบเล่นครูควรใช้ "การเล่น" มาเป็นสื่อในการถ่ายทอดความรู้ โดยครูต้องมีวัสดุอุปกรณ์ และจัดกิจกรรมให้เด็กได้มีส่วนร่วม เพื่อสร้างจิตนาการและความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ สื่อที่ใช้ต้องสามารถเป็นตัวกระตุ้นความสนใจของเด็กในเรื่องที่จะเรียนเมื่อ เด็กเกิดความสนใจก็จะเกิดความพยายามเรียนรู้เรื่องนั้น ๆ แล้ว การให้เด็กได้เรียนรู้ด้วยการร่วมกิจกรรมและลงมือปฏิบัติถือเป็นวิธีการที่ ดีที่จะช่วยให้เด็กเกิดความรู้ติดตัวที่คงทนและยั่งยืน
             
        การศึกษาไทยในยุคใหม่ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book)เป็นหนทางหนึ่งของการพัฒนาคน ปัจจุบัน E-Book เป็นการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่นักเรียนสามารถอ่านหนังสือได้จากหน้าจอ คอมพิวเตอร์เหมือนเปิดอ่านจากหนังสือโดยตรงที่เป็นกระดาษแต่ไม่มีการเข้าเล่มเหมือนหนังสือที่เป็นกระดาษหนังสืออิเล็กทรอนิกส์มีความสามารถมากมายคือมีการเชื่อมโยง (Link) กับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มอื่นๆได้ เพราะอยู่บนเครือข่าย www และมีบราวเซอร์ที่ทำหน้าที่ดึงข้อมูลมาแสดงให้ ตามที่เราต้องการเหมือนการเล่นอินเตอร์เน็ตทั่วไปเพียงแต่เป็นระบบหนังสือบนเครือข่ายเท่านั้น ซึ่งสื่อเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจสูงขึ้นเรื่อยๆหากebookไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้เรียนผู้สอนหรือแวดวงการศึกษาไทยได้แล้วสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือ E-Book ก็คงไม่ได้รับความนิยมจนถึงเวลาปัจจุบันนี้เหตุผลที่สถานศึกษาไทยหรือแวดวงการศึกษาไทยนิยมใช้สื่อ อิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Book  นั่นคือ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Book มีส่วนช่วยสนับสนุน การศึกษาตลอดชีวิตของคนไทยได้ ตามพระราชบัญญัติการศึกษา ๒๕๔๒ มาตรา ๖๖ ผู้เรียนมีสิทธิได้รับการพัฒนาขีดความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในโอกาสแรกที่ทำ
              ได้เพื่อให้มีความรู้และทักษะเพียงพอที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตอีกทั้งยังเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่จะช่วยสร้างความเข้าใจเนื้อหาของบทเรียนตรงกันระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนเป็นสิ่งที่จะช่วยเสริมให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ตรงที่เป็นรูปธรรมช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจสิ่งยากที่เป็นนามธรรมได้ง่ายรวดเร็วเพลิดเพลินและสามารถจดจำสิ่งที่เรียนรู้ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นเพราะสิ่งสำคัญของ E-Book ช่วยให้สามารถย้อนกลับมาอ่านได้และสามารถเลือกอ่านได้ตามเวลาสถานที่ที่ตนเองสะดวก  การตอบสนองที่รวดเร็วของคอมพิวเตอร์ที่ให้ทั้งสีสัน ภาพ และเสียง ทำให้เกิดความตื่นเต้นและไม่เบื่อหน่าย สามารถปรับเปลี่ยน แก้ไข เพิ่มเติมข้อมูลได้ง่ายสะดวกและรวดเร็วให้ทันสมัยกับเหตุการณ์ได้เป็นอย่างดี  สามารถค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กำลังศึกษา เข้าถึงและใช้ประโยชน์เพื่อการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ อย่างทั่วถึงมีความเสมอภาคและมีประสิทธิภาพที่เท่าเทียมกันที่สำคัญจะเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งที่จะนาพาไปสู่การสร้างสังคมการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตสังคมโลกหลายประเทศได้ให้ความสำคัญกับการปรับการ เรียนการสอน มีการวางแผนยุทธศาสตร์ห้องเรียนแห่งอนาคตในทศวรรษที่ 21ซึ่งเป็นระบบห้องเรียนอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถจัดการเรียนรู้ด้วยระบบสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับแหล่งเรียนรู้ได้ทั่วโลกผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ตที่มีการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีการสื่อสารและเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาให้สูงขึ้น
            
             E-Book ได้รับการยอมรับว่าเป็นกลไกสำคัญอีกระบบหนึ่งที่มีคุณลักษณะในการสนับสนุน ส่งเสริม ประสิทธิภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนได้อย่างอิสระ ช่วยให้เข้าถึงแหล่งความรู้ที่หลากหลายได้อย่าง รวดเร็วและสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองตามอัธยาศัย ซึ่งสื่อเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจสูงขึ้นเรื่อยๆ หาก E-Book ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้เรียน ผู้สอน หรือแวดวงการศึกษาไทย ได้แล้ว บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Book ก็คงไม่ได้รับความนิยมจนถึงเวลาปัจจุบันนี้

    วิธีการอ่านอีบุ๊ค
    เราสามารถอ่านอีบุ๊คได้หลายวิธี แต่ในปัจจุบันแท็บเล็ตและมือถือแบบสมาร์ทโฟนได้รับความนิยมมาก การอ่านอีบุ๊คด้วยแท็บเล็ตหรือมือถือเหล่านี้จะสะดวกกว่าอ่านจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพราะสามารถพกพาติด ตัวได้ตลอดเวลา จากตัวอย่าง หากใช้แท็บเล็ตขนาดหน้าจอประมาณ 10 นิ้ว ขนาดตัวหนังสือจะใกล้เคียงกับหนังสือขนาดพ็อกเก็ตบุ๊คมากที่สุด การแสดงหน้าจะพอดีในหน้าจอ อ่านง่ายที่สุด ส่วนการอ่านจากมือถือ ควรเลือกใช้รุ่นที่หน้ากว้าง 4.3 นิ้วขึ้นไป หรือ 5 นิ้วดีที่สุด แม้จะมีขนาดใหญ่ แต่ก็ยังสามารถพกพาได้

    ข้อดีของ E-Book
    1.       แบบนี้ก็คือเนื้อ เราสามารถทำเป็นสี่สีที่ดูสวยงามได้ ช่วยให้เข้าใจง่าย แต่หนังสือจริงนั้น การพิมพ์รูปเล่มเป็นสี่สีนั้น จะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก
    2.       สามารถเก็บในชั้นหนังสือในแอปได้เป็นจำนวนมาก
    3.       สามารถหาซื้อได้ในเวลาที่รวดเร็ว และมีช่องทางในการหาซื้อได้หลายช่องทาง

    ข้อเสียของ E-Book 
              สำหรับ E-Book ซึ่งมีลักษณะเป็นไฟล์คอมพิวเตอร์ประเภทหนึ่ง ไม่เหมือนหนังสือจริง ทำให้ขาดแผนที่ในใจ ทำให้การค้นหาข้อมูลที่เคยอ่าน ทำได้ยาก ไม่เหมือนหนังสือจริงซึ่งแม้จะวางกองรวมกันอยู่หลายร้อยเล่ม แต่เล่มที่เราเคยอ่าน ข้อมูลสำคัญที่เราต้องการอยู่หน้าที่เท่าไหร่ เราสามารถเปิดหาได้ไม่ยาก แต่กรณีของ E-Book นั้น หากจำคำหรือข้อความที่เกี่ยวข้องไม่ได้ ก็ยากในการค้นหา เพราะเวลาอ่านนั้น ส่วนใหญ่เราไม่ ได้จดจำเลขหน้าอ่านผ่านๆ ไปเท่านั้น 
              ข้อเสียด้านอื่น ก็ยังมีอีกหลายอย่าง เช่น ต้องมีอุปกรณ์ไว้อ่าน E-Book โดยเฉพาะ แม้ว่าจะสามารถอ่านจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊คได้ก็ตาม แต่ก็ไม่สะดวกเหมือนอ่านจากหน้าจอแท็บเล็ต การอ่านอีบุ๊คจึงทำ ให้เรามีค่าใช้จ่ายไม่เพียงต้องซื้อเครื่องอ่านอีบุ๊ค ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ตซีดีหรือเครื่องอ่าน E-Book โดยเฉพาะก็ตาม เราก็ยังต้องซื้อ E-Book ด้วยเช่นกัน เพราะ E-Book ดีๆ ไม่ค่อยมีฟรีต้องซื้อเช่นกัน

    เปรียบเทียบหนังสือจริงกับ E-Book 
              1.
    ตัวอย่างหนังสือจริงๆ เล่มขนาดนี้น้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม ต้นทุนค่าพิมพ์ต่อ 3000 เล่ม เกือบแสนบาท เจ๊งไปแล้วด้วย
              2. ตัวอย่างหนังสือในรูปแบบ E-Book ต้นทุนไม่มี เพราะเป็นไฟล์คอมพิวเตอร์ ต้องเปิดอ่านด้วยโปรแกรมสำหรับอ่านอีบุ๊คโดยเฉพาะเช่น Acrobat Reader หรือเครื่องอ่านอีบุ๊ค (E-Book Reader) มือถือ แท็บเล็ตพีซี
              3. หนังสือจริง เราสามารถหยิบมาอ่านได้เลย สะดวกมาก แต่ข้อเสียเรื่องขนาดและน้ำหนัก เพราะเล่มนี้น้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม
              4.
    ในขณะที่เมื่อแปลงเป็น E-Book แล้ว จะเป็นไฟล์คอมพิวเตอร์ ไม่มีรูปไม่มีน้ำหนัก สามารถอ่านผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ตพีซีหรือมือถือแบบสมาร์ทโฟนอย่าง iPhone, android หรือ Windows โฟนได้ เลย
              3. หนังสือจริง เราสามารถหยิบมาอ่านได้เลย สะดวกมาก แต่ข้อเสียเรื่องขนาดและน้ำหนัก เพราะเล่มนี้น้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม
              4.
    ในขณะที่เมื่อแปลงเป็น E-Book แล้ว จะเป็นไฟล์คอมพิวเตอร์ ไม่มีรูปไม่มีน้ำหนัก สามารถอ่านผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ตพีซีหรือมือถือแบบสมาร์ทโฟนอย่าง iPhone, android หรือ Windows โฟนได้ เลย

    อ้างอิง
    ปิลันธนา สงวนบุญญพงษ์  (2542: 20)


  • 0 ความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น

    ADDRESS

    สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ 85/1
    ถ.แจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด นนทบุรี 11120

    EMAIL

    mynx.wm@gmail.com
    kruemmy@hotmail.com